วันลอยกระทงทุกปีที่ผ่านมามักจะมีอุบัติเหตุจากการจุดพลุ ประทัดและดอกไม้ไฟ ทำให้ได้รับบาดเจ็บตามอวัยวะต่างๆ ของร่างกาย หากบาดเจ็บรุนแรงอาจสูญเสียอวัยวะสำคัญหรือถึงขั้นเสียชีวิตได้


จากข้อมูลเฝ้าระวังการบาดเจ็บของกองป้องกันการบาดเจ็บ กรมควบคุมโรค ในโรงพยาบาลขนาดใหญ่ 33 แห่ง พบในช่วง 5 ปีที่ผ่านมา ตั้งแต่ปี 2558-2562 มีผู้บาดเจ็บรุนแรงจากพลุ ประทัดและดอกไม้ไฟ 1,770 ราย เสียชีวิต 2 ราย ส่วนใหญ่ร้อยละ 92.8 เป็นเพศชายและเป็นกลุ่มเด็กและเยาวชนอายุ 5-19 ปี จุดเกิดเหตุส่วนใหญ่คือในบ้านและบริเวณบ้าน ส่วนอวัยวะที่ได้รับการบาดเจ็บรุนแรงจากเปลว หรือสะเก็ดดอกไม้ไฟ หรือพลุมากที่สุดคือ บริเวณมือและข้อมือ คิดเป็นร้อยละ 69.2 ในจำนวนนี้ร้อยละ 51 กระดูกแตกหักบริเวณมือและข้อมือ ร้อยละ 23 มือขาด ถูกตัด รองลงมาคือ บาดเจ็บที่ศีรษะและใบหน้า ส่วนใหญ่เจ็บที่ตา เพื่อป้องกันการบาดเจ็บจากพลุ ประทัดและดอกไม้ไฟ ผู้ปกครองจึงไม่ควรให้เด็กจุดพลุ ประทัดและดอกไม้ไฟด้วยตนเอง และไม่ควรอยู่ใกล้บริเวณที่จุด ควรสอนให้เด็กรู้ว่าพลุ ประทัดและดอกไม้ไฟ ไม่ใช่ของเล่น แต่เป็นสิ่งที่อันตรายสำหรับเด็ก ไม่เก็บพลุ ประทัดและดอกไม้ไฟ ที่จุดแล้วไม่ติดมาเล่น เพราะอาจระเบิด โดยไม่คาดคิด และหากจำเป็นต้องจุดพลุ ประทัดและดอกไม้ไฟ ในงานพิธีต่างๆ ควรอ่านคำแนะนำอย่างละเอียดและอยู่ห่างอย่างน้อย 1 ช่วงแขน


หากพบเห็น หรือเกิดอุบัติเหตุ การปฐมพยาบาลเบื้องต้นเมื่อนิ้ว หรืออวัยวะใดอวัยวะหนึ่งขาดจากแรงระเบิด ให้รีบห้ามเลือดบริเวณที่อวัยวะขาด โดยใช้ผ้าสะอาดปิดบาดแผล และพันบาดแผลให้แน่น เพื่อป้องกันเลือดออก ไม่ควรใช้เชือกหรือสายรัดเหนือแผลเพราะจะทำให้เส้นประสาทหรือหลอดเลือดเสียหายได้ และรีบโทรแจ้งขอความช่วยเหลือจากทีมแพทย์กู้ชีพ โทร.1669

ระวัง 5 อุบัติเหตุวันลอยกระทง

ช่วงเทศกาลต่าง ๆ มักจะเป็นช่วงที่มีอุบัติเหตุเกิดขึ้นมากมาย ครอบครัวไหนพาลูกหลานไปเที่ยวงานลอยกระทงกัน ก็อย่าลืมระมัดระวังอุบัติเหตุกันด้วยนะคะ 5 อุบัติเหตุที่ควรระวังในช่วงเทศกาลลอยกระทง

  1. อุบัติเหตุทางถนน
    เนื่องจากมีผู้คนจำนวนมากออกมาเที่ยวงานและลอยกระทง ทำให้มียานพาหนะบนถนนเป็นจำนวนมาก ดังนั้นผู้ปกครองจึงควรดูแลเด็กอย่างใกล้ชิดตลอดเวลา
     
  2. การพลัดหลง
    ต้องดูแลเด็กอย่างใกล้ชิด ควบคุมให้อยู่ในสายตา ผู้ปกครองต้องเขียนชื่อ ที่อยู่ หมายเลขโทรศัพท์ที่สามารถติดต่อได้ ใส่ไว้ในกระเป๋าของเด็กและสอนเด็กว่า หากเกิดการพลัดหลงให้เดินทางไปหาเจ้าหน้าที่ตำรวจ
  3. อุบัติเหตุทางน้ำ
    ควรระวังการเดินลงไปลอยกระทงตามริมแม่น้ำ ลำคลอง หรืออ่างเก็บน้ำ อย่าปล่อยให้เด็กลงไปลอยกระทงคนเดียวโดยเด็ดขาด เพราะอาจทำให้เด็กพลาดตกน้ำหรือจมน้ำได้
  4. อุบัติเหตุจากพลุ ดอกไม้ไฟ
    พลุ ดอกไม้ไฟ ของคู่กับเทศกาลงานลอยกระทง ถึงแม้จะรณรงค์กันทุกปี แต่ก็มีอุบัติเหตุที่เกิดขึ้นกับเด็กได้ทุกปี ผู้ปกครองจึงควรดูแลบุตรหลานอย่างเคร่งครัด
  5. อันตรายจากโคมลอย
    นอกจากลอยกระทงในแม่น้ำ ลำคลองแล้ว ไม่กี่ปีมานี้มีกิจกรรมยอดฮิตอีกอย่างคือการปล่อยโคมลอย ซึ่งโคมลอยนี้ถ้าปล่อยกันในเขตชุมชนอาจเกิดอันตรายกับบ้านเรือนได้หากโคมตกลงมาในขณะที่ไฟยังติดอยู่ และยิ่งปล่อยกันจำนวนมากสุดท้ายอาจจะกลายเป็นขยะดังภาพที่เคยเป็นข่าวหรือแชร์กันในโซเชี่ยลฯ

อุบัติเหตุ หรือเจ็บป่วยฉุกเฉิน โทร 1669 ฟรี ตลอด 24 ชั่วโมง

เพื่อความปลอดภัยของผู้ป่วยฉุกเฉินเอง และเพื่อการช่วยเหลืออย่างทันกาล สิ่งสำคัญที่ผู้แจ้งเหตุจะต้องให้ข้อมูลกับผู้รับแจ้งเหตุในระบบบริการการแพทย์ฉุกเฉิน คือ

     1. เมื่อพบผู้ป่วยฉุกเฉิน หรือผู้ประสบอุบัติเหตุ ให้ตั้งสติ และโทรแจ้งสายด่วน 1669
     2. ให้ข้อมูลลักษณะเหตุการณ์ ว่าเกิดอุบัติเหตุอะไร ประเภทใด หรือเป็นผู้ป่วยฉุกเฉินในลักษณะใด เช่น

  • คนถูกรถชน รถชนกัน รถคว่ำ คนตกจากที่สูง มีบาดแผลขนาดใหญ่ ลึก มีเลือดออกมาก ห้ามเลือดไม่อยู่
  • ไฟฟ้าช็อต ไฟไหม้ น้ำร้อนลวก
  • ได้รับสารพิษ ยาพิษ สัตว์มีพิษกัดต่อย
  • เจ็บป่วยฉุกเฉิน เช่น หมดสติ มีอาการของภาวะช็อค เช่น หน้าซีด เหงื่อออก ตัวเย็น ซึมลง ชักเกร็ง ชักกระตุก เป็นไข้สูง ตัวร้อนจัด หนาวสั่น ตกเลือด
  • เจ็บท้องคลอดฉุกเฉิน มีสิ่งแปลก ปลอมอุดกั้นทางเดินหายใจ เจ็บหน้าอก หายใจหอบ เหนื่อย เป็นต้น
  1. บอกสถานที่เกิดเหตุ จุดเกิดเหตุ หรือจุดเด่นที่สำคัญที่สามารถเห็นชัด และเส้นทางที่สามารถไปถึงที่เกิดเหตุ
  2. บอกเพศ ช่วงอายุ จำนวนผู้บาดเจ็บ อาการรุนแรงของแต่ละคน
  3. บอกระดับความรู้สึกตัวของผู้บาดเจ็บ
  4. บอกความเสี่ยงซ้ำ เช่น อยู่กลางถนน เพราะอาจเกิดกรณีรถเหยียบซ้ำได้
  5. ชื่อผู้แจ้งหรือผู้ให้การช่วยเหลือหรือเบอร์ โทรศัพท์ ที่สามารถติดต่อได้
  6. แจ้งอาการผู้ป่วยเพิ่มเติม และช่วยเหลือตาม คำแนะนำ ของเจ้าหน้าที่ตามอาการผู้ป่วยฉุกเฉิน
  7. รอชุดปฏิบัติการด้านการแพทย์ฉุกเฉินมารับ ผู้ป่วยเพื่อนำส่งโรงพยาบาล

การแจ้งข้อมูลเบื้องต้นของท่านๆ คือการช่วยเหลือขั้นแรกที่สำคัญ ที่จะช่วยให้ผู้ป่วยฉุกเฉินมีโอกาสรอด และปลอดภัยมากขึ้น

ด้วยความปรารถนาดี : จากเทศบาลเมืองลำพูน