- คาดเข็มขัดนิรภัย บางท่านอาจคิดว่าการคาดเข็มขัดเป็นเรื่องอึดอัด แต่เดี๋ยวนี้รถยนต์รุ่นใหม่จะมีสัญญาณแจ้งเตือนเวลาลืมคาด ผู้ขับรถบางรายจึงมีอุปกรณ์ช่วยคือที่เสียบไว้ไม่ให้สัญญาเตือนร้องเพื่อที่จะไม่ต้องคาดเข็มขัด แต่คุณรู้หรือไม่ว่า การคาดเข็มขัดจะช่วยให้คุณปลอดภัยเมื่อเกิดอุบัติเหตุรุนแรง คุณจะไม่กระเด็นออกจากตัวรถ และจะเซฟตัวเองในระดับนึงเลยก็ว่าได้ ฉะนั้นควรคาดเข็มขัดทุกครั้งก่อนขับขี่
- การขับรถตามกฎจราจร การเคารพกฎถือเป็นสิ่งที่ผู้ใช้รถบนท้องถนนต้องกระทำ เพื่อลดความเสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุและการสูญเสีย ไม่ควรฝ่าไฟแดง, ไม่ขับรถย้อนศร หรือ การแซงต่างๆ พยายามขับรถให้อยู่ในช่องการจราจรของคุณ เห็นป้ายเตือนต่างๆ ควรอ่านและปฏิบัติตามอย่างเคร่งครัด เพราะคุณจะไม่รู้เลยว่าทางข้างหน้าจะอันตรายขนาดไหน
- มีสติและเตรียมร่างกายให้พร้อม การที่จะออกเดินทางควรที่เตรียมร่างกายให้พร้อม พักผ่อนให้เพียงพอ และหลีกเลี่ยงปัจจัยที่ทำให้เกิดอาการง่วงหรือหลับใน เช่นการกินยาที่มีการออกฤทธิ์ง่วงนอน หรือ การหักโหมทำงานหนักเพื่อวันหยุดยาว และมีสติก่อนอันดับแรกทุกครั้งในการขับรถ เพราะอุบัติเหตุอยู่รอบด้านหากเผลอหรือขาดสติในการขับ ภัยอันตรายจะตามมาอย่างแน่นอน
- ตรวจเช็คสภาพรถยนต์ก่อนขับและจอดรถพักตามจุดพักรถ หากต้องเดินทางไกลการเตรียมเครื่องยนต์ให้พร้อมใช้งาน เพื่อป้องกันรถยนต์เกิดปัญหาหรือดับกลางทางควรเข้าศูนย์เช็คระยะ ความพร้อมต่างๆ ก่อนออกเดินทางไกล และการจอดพักรถถือเป็นสิ่งที่จำเป็นอย่างมาก เพราะเครื่องยนต์ที่มีการทำงานหนัก อาจทำให้หม้อน้ำแห้งและระเบิดได้ ดังนั้นมองหาจุดพักรถที่ปลอดภัย แล้วจอดรถสักหน่อย นอกจากจะได้พักรถแล้วยังได้ลงไปยืดเส้นยืดสาย เติมพลัง แก้ง่วง ได้อีกด้วย
- เมาไม่ขับ ข้อนี้จะหลีกเลี่ยงไม่ได้เพราะว่าช่วงเทศกาลต้องมีการดื่มฉลอง ซึ่งหากคุณมึนเมา นอกจากจะโดนปรับ หรือ จับติดคุกแล้ว การเมาแล้วขับเสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุอย่างมาก เพียงแค่แก้วเดียวอาจทำให้ชีวิตคุณเปลี่ยนเลยก็ว่าได้ ทั้งคุณและคนที่ใช้ทางจราจรร่วมกับคุณ ความสูญเสียครั้งใหญ่ตามมาแน่นอน
- ไม่ขับรถเร็ว ตั้งตัวอยู่ในความไม่ประมาท การขับรถด้วยความเร็วเป็นอันตรายต่อชีวิต ยิ่งเป็นช่วงปีใหม่ที่มีการจราจรหนาแน่น เกิดอุบัติเหตุได้ง่าย ไม่ว่าจะเป็นการขับรถบนถนนโล่ง หรือขึ้นเขา – ลงเขา ก็ไม่ควรขับเร็ว เพราะหากมีอะไรตัดหน้า หรือรถคันหน้ามีการเบรคกะทันหันอาจจะไม่ทันตั้งตัวได้
- งดการใช้โทรศัพท์ขณะขับขี่ งดเล่นโทรศัพท์ งดโซเซียล แชทไลน์ ตั้งโหมดขับรถได้เลยยิ่งดีเพื่อความปลอดภัยของตัวคุณและคนที่รัก เพราะเพียงแค่มองหน้าจอ 1 วินาทีอาจเกิดอุบัติเหตุบนท้องถนนก็เป็นได้ การขับรถใจควรอยู่ที่ถนน เรื่องอื่นเอาไว้ก่อนเสียดีกว่า
อุบัติเหตุ หรือเจ็บป่วยฉุกเฉิน โทร 1669 ฟรี ตลอด 24 ชั่วโมง
เพื่อความปลอดภัยของผู้ป่วยฉุกเฉินเอง และเพื่อการช่วยเหลืออย่างทันกาล สิ่งสำคัญที่ผู้แจ้งเหตุจะต้องให้ข้อมูลกับผู้รับแจ้งเหตุในระบบบริการการแพทย์ฉุกเฉิน คือ
1. เมื่อพบผู้ป่วยฉุกเฉิน หรือผู้ประสบอุบัติเหตุ ให้ตั้งสติ และโทรแจ้งสายด่วน 1669
- ให้ข้อมูลลักษณะเหตุการณ์ ว่าเกิดอุบัติเหตุอะไร ประเภทใด หรือเป็นผู้ป่วยฉุกเฉินในลักษณะใด เช่น
- คนถูกรถชน รถชนกัน รถคว่ำ คนตกจากที่สูง มีบาดแผลขนาดใหญ่ ลึก มีเลือดออกมาก ห้ามเลือดไม่อยู่
- ไฟฟ้าช็อต ไฟไหม้ น้ำร้อนลวก
- ได้รับสารพิษ ยาพิษ สัตว์มีพิษกัดต่อย
- เจ็บป่วยฉุกเฉิน เช่น หมดสติ มีอาการของภาวะช็อค เช่น หน้าซีด เหงื่อออก ตัวเย็น ซึมลง ชักเกร็ง ชักกระตุก เป็นไข้สูง ตัวร้อนจัด หนาวสั่น ตกเลือด
- เจ็บท้องคลอดฉุกเฉิน มีสิ่งแปลก ปลอมอุดกั้นทางเดินหายใจ เจ็บหน้าอก หายใจหอบ เหนื่อย เป็นต้น
- บอกสถานที่เกิดเหตุ จุดเกิดเหตุ หรือจุดเด่นที่สำคัญที่สามารถเห็นชัด และเส้นทางที่สามารถไปถึงที่เกิดเหตุ
- บอกเพศ ช่วงอายุ จำนวนผู้บาดเจ็บ อาการรุนแรงของแต่ละคน
- บอกระดับความรู้สึกตัวของผู้บาดเจ็บ
- บอกความเสี่ยงซ้ำ เช่น อยู่กลางถนน รถติดแก๊ส ฯลฯ
- ชื่อผู้แจ้งหรือผู้ให้การช่วยเหลือหรือเบอร์ โทรศัพท์ ที่สามารถติดต่อได้
- แจ้งอาการผู้ป่วยเพิ่มเติม และช่วยเหลือตาม คำแนะนำ ของเจ้าหน้าที่ตามอาการผู้ป่วยฉุกเฉิน
- รอชุดปฏิบัติการด้านการแพทย์ฉุกเฉินมารับ ผู้ป่วยเพื่อนำส่งโรงพยาบาล
การแจ้งข้อมูลเบื้องต้นของท่านๆ คือการช่วยเหลือขั้นแรกที่สำคัญ ที่จะช่วยให้ผู้ป่วยฉุกเฉินมีโอกาสรอด และปลอดภัยมากขึ้น
ด้วยความปรารถนาดี : จากเทศบาลเมืองลำพูน