การแจ้งเตือนโรคปอดอักเสบ จากเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ ในประเทศจีน (เมืองอู่ฮั่น)
(การแจ้งเตือนระดับ 1 ดูแลและป้องกันสุขภาพ)
ระดับ 1 | ระดับ 2 | ระดับ 3 |
ดูแลและป้องกันสุขภาพ | ระมัดระวังสุขภาพมากขึ้น | หลีกเลี่ยงการเดินทาง |
สรุปใจความสำคัญ
• มีการระบาดของโรคติดต่อทางเดินหายใจจากไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ที่เมืองอู่ฮั่น มณฑลหูเป่ย ประเทศจีน
• แนะนำผู้เดินทางที่จะเดินทางไปเมืองอู่ฮั่นหรือใกล้เคียง ในเรื่องพฤติกรรมสุขภาพหลีกเลี่ยงการอยู่ในสถานที่แออัด ไม่อยู่ใกล้ชิดผู้ป่วยไอจาม หากจำเป็นให้สวมใส่หน้ากากอนามัยเมื่ออยู่ในที่ชุมชน หลีกเลี่ยงการเข้าไปตลาดค้าสัตว์ และไม่สัมผัสหรืออยู่ใกล้ชิดกับสัตว์ โดยเฉพาะอย่างยิ่งสัตว์ที่ป่วย หรือตาย และหมั่นล้างมือให้สะอาดอยู่เสมอด้วยน้ำและสบู่ หรือ แอลกอฮอล์เจลล้างมือ
• ภายใน 14 วัน หลังเดินทางกลับจากพื้นที่เสี่ยง หากมีไข้ ร่วมกับอาการทางเดินหายใจ ได้แก่ ไอ เจ็บคอ มีน้ำมูก หายใจเหนื่อยหอบ ควรรีบพบแพทย์ทันที พร้อมทั้งแจ้งประวัติการเดินทางไปเมืองอู่ฮั่น ประเทศจีน
โรคปอดอักเสบ คืออะไร
• ปอดอักเสบ (pneumonia) ส่วนใหญ่เกิดจากการติดเชื้อในระบบทางเดินหายใจ พบได้ทั้งการติดเชื้อ ไวรัส แบคทีเรีย และเชื้อรา ทำให้เกิดการอักเสบของถุงลมปอด และเนื้อเยื่อโดยรอบ
• อาการสำคัญ ได้แก่ มีไข้ ไอ หายใจเหนื่อยหอบ
สถานการณ์ปัจจุบัน
• ข้อมูลตั้งแต่วันที่ 30 ธันวาคม 2562 ถึงวันที่ 11 มกราคม 2563 ทางการจีนรายงานผู้ป่วยทั้งสิ้น 59 ราย เสียชีวิต 1 ราย มีอาการป่วยรุนแรงรักษาในโรงพยาบาลอีกหลายราย และมีผู้สัมผัสใกล้ชิดที่ต้องติดตาม 739 ราย ขณะนี้ยังไม่มีรายงานการติดต่อจากคนสู่คน และไม่มีบุคลากรทางการแพทย์ป่วย
• จากการสอบสวนโรคเบื้องต้นในประเทศจีน พบว่า ผู้ป่วยส่วนใหญ่ทำงานในตลาดหรือมีประวัติเดินทางไปที่ตลาด South China Seafood Market ในเมืองอู่ฮั่น ซึ่งเป็นตลาดที่มีการค้าสัตว์หลายชนิด เช่น นก ไก่ฟ้า งู เครื่องในกระต่าย และสัตว์ป่าอื่นๆ ขณะนี้ตลาดดังกล่าวได้มีการจัดการด้านสุขาภิบาลสิ่งแวดล้อม และถูกปิดแล้วตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2563
• กระทรวงสาธารณสุข โดยกรมควบคุมโรค ได้มีมาตรการเฝ้าระวังคัดกรอง และป้องกันควบคุมโรค ปอดอักเสบจากไวรัสโคโรนา ดังนี้ 1) ทำการคัดกรองผู้ที่เดินทางมาจากเมืองอู่ฮั่น ณ ด่านควบคุมโรคติดต่อระหว่างประเทศใน 4 ท่าอากาศยาน ได้แก่ ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ดอนเมือง เชียงใหม่ และภูเก็ต 2) ขอความร่วมมือให้โรงพยาบาลทำการคัดกรองผู้ป่วยที่มีอาการไข้ ร่วมกับมีอาการระบบทางเดินหายใจ เช่น ไอ เจ็บคอ มีน้ำมูก หายใจเหนื่อยหอบ และมีประวัติการเดินทางไปเมืองอู่ฮั่น และ 3) การเฝ้าระวังในชุมชน โดยให้ความรู้ประชาชน เมื่อพบนักท่องเที่ยวที่เดินทางมาจากพื้นที่ระบาดของโรค มีอาการไข้ ร่วมกับมีอาการระบบทางเดินหายใจ เช่น ไอ เจ็บคอ มีน้ำมูก หายใจเหนื่อยหอบ ให้แจ้งบุคลากรสาธารณสุขในพื้นที่ หรือ สายด่วนกรมควบคุมโรค DDC Hotline 1422
ความเสี่ยงสำหรับประเทศไทย
• การเดินทางจากเมืองอู่ฮั่นมายังประเทศไทย มีสายการบินตรงมาที่สนามบินสุวรรณภูมิ ดอนเมือง เชียงใหม่ และภูเก็ต โดยใช้เวลาเดินทางประมาณ 3 ชั่วโมง 30 นาที ถึงกรุงเทพมหานคร และมีผู้โดยสารขาเข้าเฉลี่ยวันละ 1,200 คน
• คนไทยเดินทางไปประเทศจีนประมาณปีละ 7 แสนคน และอยู่อาศัยในประเทศจีนประมาณ 12,000 คน โดยเป็นนักเรียนนักศึกษาประมาณ 2 ใน 3 ซึ่งเมืองอู่ฮั่นมีนักศึกษาไทยไปเรียนต่อในระดับมหาวิทยาลัย ส่วนคนจีนเดินทางมาประเทศไทยปีละประมาณ 10 ล้านคน จากประชากรประมาณ 1,400 ล้านคน
วิธีป้องกันตนเองของนักเดินทาง
เนื่องจากองค์การอนามัยโลกไม่มีประกาศจำกัดการเดินทางไปยังพื้นที่ดังกล่าว แต่ควรปฏิบัติตามคำแนะนำ ดังนี้
• ระหว่างเดินทางในต่างประเทศ ขอให้หลีกเลี่ยงการอยู่ในสถานที่แออัด หรือสถานที่ที่มีมลภาวะเป็นพิษ และไม่อยู่ใกล้ชิดผู้ป่วยไอ จาม หากเลี่ยงไม่ได้ให้สวมใส่หน้ากากอนามัยป้องกัน
• หลีกเลี่ยงการเข้าไปตลาดค้าสัตว์มีชีวิต การสัมผัสหรืออยู่ใกล้ชิดกับสัตว์ โดยเฉพาะอย่างยิ่งสัตว์ที่ป่วย หรือตาย และหลีกเลี่ยงการรับประทานอาหารรวมถึงเนื้อสัตว์ที่ไม่สุกดี
• หมั่นล้างมือให้สะอาดอยู่เสมอด้วยน้ำ และสบู่ หรือแอลกอฮอล์เจลล้างมือ ไม่นำมือมาสัมผัสตา จมูก ปาก โดยไม่จำเป็น
• ไม่ใช้ของส่วนตัวร่วมกับผู้อื่น (เช่น ผ้าเช็ดหน้า แก้วน้ำ ผ้าเช็ดตัว) เนื่องจากเชื้อก่อโรคทางระบบทางเดินหายใจสามารถเข้าสู่ร่างกายได้ทางการสัมผัสสารคัดหลั่งของผู้ติดเชื้อ
• รักษาร่างกายให้อบอุ่นอยู่เสมอและนอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ
• หลังเดินทางกลับถึงประเทศไทย ภายใน 14 วัน ถ้ามีอาการไข้ มีอาการระบบทางเดินหายใจ เช่น ไอ เจ็บคอ มีน้ำมูก หายใจเหนื่อยหอบ ให้สวมหน้ากากอนามัย และรีบไปพบแพทย์หรือเจ้าหน้าที่สาธารณสุขทันที พร้อมทั้งแจ้งประวัติการเดินทาง เนื่องจากมีโอกาสเกิดภาวะแทรกซ้อนปอดบวม และมีอาการรุนแรง ถึงขั้นเสียชีวิตได้
• หากมีข้อสงสัยเพิ่มเติม สอบถามได้ที่ สายด่วนกรมควบคุมโรค 1422
จัดทำโดย:
ศูนย์ปฏิบัติการภาวะฉุกเฉิน กรณีโรคปอดอักเสบรุนแรงจากไวรัส กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข
วันที่อัพเดต:
วันที่อัพเดต: 11 มกราคม พ.ศ. 2563
เอกสารอ้างอิง
1.https://afludiary.blogspot.com/2020/01/who-wpro-statement-on-cluster-of.html?m=1
2.https://china.usembassy-china.org.cn/u-s-citizen-services/security-and-travel-information/
3.https://promedmail.org/
4.https://ddc.moph.go.th/brc/news.php?news=10896&deptcode=brc&news_views=6006
5.http://www.boe.moph.go.th/fact/Pneumonia.htm
6.https://virologydownunder.com/viral-pneumonia-cluster-in-wuhan-central-china-44-cases-and-counting/
2.https://china.usembassy-china.org.cn/u-s-citizen-services/security-and-travel-information/
3.https://promedmail.org/
4.https://ddc.moph.go.th/brc/news.php?news=10896&deptcode=brc&news_views=6006
5.http://www.boe.moph.go.th/fact/Pneumonia.htm
6.https://virologydownunder.com/viral-pneumonia-cluster-in-wuhan-central-china-44-cases-and-counting/
คำแนะนำสำหรับประชาชน
หากท่านมีอาการไข้ ไอ เจ็บคอ น้ำมูกไหล หายใจเหนื่อย ภายใน 14 วัน หลังกลับมาจากเมืองอู่ฮั่นประเทศจีน โปรดไปพบแพทย์และยื่นบัตรคำแนะนำด้านสุขภาพสำหรับผู้เดินทางเข้ามาในประเทศไทย กับแพทย์ผู้ทำการรักษาพร้อมแจ้งประวัติการเดินทาง ท่านอาจได้รับเชื้อโรคก่อนเดินทางมายังประเทศไทย กรุณาแจ้งรายละเอียดต่างๆกับแพทย์ผู้ทำการรักษา เช่น อาการป่วย วันที่เริ่มมีอาการป่วย วันเดินทางมาถึงประเทศไทย สถานที่พัก เพื่อแพทย์จะได้วินิจฉัยได้ถูกต้องและรักษาได้ทันท่วงที แพทย์ผู้ทำการรักษาจะรายงานต่อหน่วยงานสาธารณสุขในพื้นที่หรือสำนักงานสาธารณสุขจังหวัด และกรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข เพื่อดำเนินการป้องกันควบคุมโรคโดยเร็ว หากมีข้อสงสัยสามารถสอบถามรายละเอียดได้ที่สายด่วนกรมควบคุมโรค 1422